รั้งแรกในประเทศไทยกับการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของ 18 แบรนด์นาฬิกาอิสระระดับโลกกับการจัดแสดงผลงานนาฬิการะดับมาสเตอร์พีซ เพื่อเอาใจนักสะสมและคนรักนาฬิกาในประเทศไทยรวมถึงภูมิภาคเอเชียให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด ในงาน “Bangkok Independent Watchmaking Exhibition 2019” นิทรรศการนาฬิกาแบรนด์อิสระ ที่รวบรวมเอาแบรนด์นาฬิกาอิสระระดับโลกจากหลากหลายแบนด์มาไว้ที่นี่ที่เดียว
นอกจากนี้ ยังมีการจัดประมูลนาฬิกา 8 เรือนพิเศษที่เหล่าผู้ผลิตนาฬิกาอิสระตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานนาฬิการะดับมาสเตอร์พีชซึ่งมีเพียงเรือนเดียวในโลก ชูจุดเด่นที่การนำเสนอลวดลายและเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย โดยมีพันธมิตรอย่างสถาบันการประมูลคริสตี้ส์ (CHRISTIE’S) เป็นผู้ดำเนินการประมูล ในวันที่ 6 กันยายน 2562 ที่คริสตัล บ๊อกซ์ ชั้น 19 เกษร เออร์บัน รีสอร์ท และนำรายได้ส่วนหนึ่งที่ได้จากการประมูลร่วมสมทบทุนให้กับโครงการกำลังใจในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวง ราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้กลับมาดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุขอีกครั้ง
AZIMUTH Thailand Edition Piece Unique GT
นาฬิกาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นรถสปอร์ต ตั้งแต่รูปทรงตัวเรือนสไตล์รถสปอร์ตยุค 70s หน้าปัดและตัวเลขอารบิกตามแบบหน้าปัดรถสปอร์ต แผงระบายอากาศด้าน ข้างทั้งสอง รวมทั้งเม็ดมะยมที่ลอกสไตล์ของฝาถังน้ำมันในยุคอดีตมาใช้ นอกจากนี้ตัวเรือนด้านบนยังสามารถเปิดขึ้นในลักษณะเดียวกันกับกระโปรงของรถยนต์ เพื่อยลโฉมเครื่องยนต์พลังแรงที่ใช้ขับเคลื่อน โดยนาฬิการุ่น Thailand Edition Piece Unique GT นี้เลือกใช้สีสันตามแบบของธงชาติไทย
ราคาจอง 165,000 บาท
KERBEDANZ Tribute to Thailand
ตัวเรือนขนาด 46 มิลลิเมตร ผลิตจากโรสโกลด์ พร้อมหน้าปัดโรสโกลด์ ผ่านกรรมวิธีแกะสลักอย่างละเอียดและบรรจง เพื่อให้เกิดเป็นสีน้ำเงิน หลังจากนั้นจึงประกบแผ่นโรสโกลด์รูปทรงแผนที่ประเทศไทยเข้ากับพื้นสีน้ำเงินด้านล่าง จนกลายเป็นความโดดเด่นของประเทศไทย ที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดบนหน้าปัด Kerbedanz Tribute to Thailand ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ KRB-023 มีพลังสำรองลานนานถึง120 ชั่วโมง เพิ่มความโดดเด่นให้ตัวเรือนและหน้าปัดด้วยสายนาฬิกาผลิตจากหนังจระเข้มิสซิสซิปปี้ฟอก ย้อมเป็นสีดำตัดกับตัวเรือนและหน้าปัด
ราคาจอง 1,320,000 บาท
ATELIERS DEMONACO Poinçon de Genève Wat Arun
Poinçon de Genève Wat Arun นำเสนอความงดงามของเจดีย์โบราณที่ทรงคุณค่าของวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารพร้อมผืนน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาอันเป็นเอกลักษณ์บ่งบอกความเป็นไทยได้อย่างชัดเจนที่ Ateliers deMonaco เลือกมาผลิตเป็นหน้าปัดนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับงานนี้
ราคาจอง 2,310,000 บาท
KUDOKE White Elephant Unique Piece
นาฬิกาที่ใช้กลไกสเกเลตัน ที่โครงสร้างของกลไกทั้งหมดจะถูกเจาะและเปิดให้เห็นการทำงานในเกือบทุกส่วน ตัวเรือนสามารถมองเห็นโครงสร้างงานแกะสลักทั้งหมด ผ่านกระจกแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมความโดดเด่นของแผ่นแอพพลิครูปช้างเผือกไทยบริเวณ 12 ถึง 2 นาฬิกา ที่มีการแกะสลักลายเส้นให้เห็นถึงริ้วรอยของหนังช้าง รวมถึงลักษณะเด่นของช้างเผือกไทย ตัวเรือนสตีลขนาด 42 มิลลิเมตร กลไกไขลาน ETA คาลิเบอร์ 6498 (UNITAS) พร้อมพลังสำรองลานนาน 46 ชั่วโมง เจาะ ขัด แต่ง และแกะสลักด้วยมือ รวมทั้งการแกะสลักบนแผ่นแอพพลิครูปช้างเผือกไทย ที่เห็นได้อย่างโดดเด่นบนหน้าปัด ผลิตแบบยูนีคพีซเพียงเรือนเดียวในโลก
ราคาจอง 348,840 บาท
CHRISTOPHE CLARET Aventicum Thailand Edition
นาฬิกาเรือนพิเศษ โดดเด่นด้วยการออกแบบลวดลายช้างไทยที่ผลิตขึ้นจากทอง ผ่านการแกะสลักด้วยเทคโนโลยีไมโคร-เอ็นเกรฟ ยืนเด่นเป็นสง่าผ่านกระจกส่องขยายอยู่บริเวณกลางหน้าปัด โดยใช้เทคโนโลยี มิราสโคป (Mirascope) และการใช้โทนสีดำและทองในการสร้างให้เห็นภาพของเจดีย์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในภาพลักษณ์สำคัญของประเทศไทย โดยรวมไปถึงภาพโขลงช้างที่วิ่งอยู่รอบกระจกแซฟไฟร์ด้านหลัง สร้างจากเทคนิคการแกะสลักกระจกแซฟไฟร์ด้านใน นาฬิกา CHRISTOPHE CLARET รุ่น Aventicum Thailand Edition ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ AVE15 ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ที่ผลิตจากกระจกแซฟไฟร์ เพื่อความโปร่งใสและสามารถมองผ่านให้เห็นการทำงานของกลไกได้อย่างชัดเจน พลังสำรองลานนาน 72 ชั่วโมง ความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง (4 เฮิร์ตซ) โดยมีกลไกพิเศษให้ชุดเข็มแสดงเวลา สามารถทำงานได้อย่างอิสระรอบหน้าปัดด้านใน
ราคาจอง 2,458,500 บาท
MATTHIAS NAESCHKE Clock Unique Piece for Thailand
ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของไทย โดยสร้างให้แท่นกลไกทั้งด้านบนและฐานล่างมีลักษณะทรงแหลมตามแบบจั่วของวัดไทยรวมไปถึงตัวเลขบนหน้าปัดแบบสเกเลตัน ที่สร้างเป็นเลขไทยทั้งหมด โดยเน้นที่เลข 10 ให้มีขนาดใหญ่กว่าเลขอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีเลขไทยที่บริเวณฐานล่างระบุเป็นเลขไทยตามปีพุทธศักราช 2562 เพื่อสื่อถึงความเป็นไทย กลไกแบบสเกเลตันนี้นับเป็นกลไกที่มีความบางมากในขณะที่ยังคงมีบาเรลที่บรรจุสปริงลานถึง 3 ชุดอยู่ในกลไกนี้ นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นของโดมกระจก ที่สร้างโดยช่างกระจกที่มากด้วยประสบการณ์ เพื่อให้มุมมองที่ชัดเจนในทุกด้าน ผนวกเข้ากับฐานไม้วอลนัทและเส้นเงินที่คาดอยู่ในตัวฐานไม้วอลนัท เพื่อความสวยงามและโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยจะผลิตแบบยูนีคพีซเพียงเรือนเดียวในโลก
ราคาจอง 1,031,700 บาท
PERRELET Turbine Unique Piece for Thailand
ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ขนาด 48 มิลลิเมตร เข็มนาฬิกาเคลือบสารซุปเปอร์-ลูมิโนว่า ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ P-331 ที่ความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง พลังสำรองลานนาน 48 ชั่วโมง พร้อมกระจกแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผลิตแบบยูนีคพีซเพียงเรือนเดียวในโลก ภาพของเทพอารักษ์สีทองบนพื้นหน้าปัดสีดำ มีลักษณะตามภาพที่ปรากฏอยู่บนประตูของวัดสำคัญต่างๆ ในกรุงเทพฯ มีความหมายถึงการอารักขาสิ่งชั่วร้ายไม่ให้ย่างกรายข้ามประตูได้ โดยตัวเลข 10 ที่ปรากฏอยู่บนหน้าปัดเป็นเลขสิบของไทยเพื่อสื่อความหมายถึงพระมหากษัตริย์องค์ที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน
ราคาจอง 965,340 บาท
LUDOVIC BALLOUARD Half Time Thailand Edition
ตัวเรือนเรดโกลด์ขนาด 41 มิลลิเมตร หนา 11 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกไขลานอินเฮ้าส์ คาลิเบอร์ B02 พร้อมพลังสำรองลานนาน 35 ชั่วโมง กระจกแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อเผยให้เห็นการทำงานที่สลับซับซ้อนของกลไกได้อย่างชัดเจน เข้าคู่กันกับสายหนังจระเข้สีน้ำเงิน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบที่แฝงความเป็นไทยเข้าไปได้อย่างลงตัวและสวยงาม อาทิการเลือกใช้สีของธงไตรรงค์บนหน้าปัด
ราคาจอง 2,945,250 บาท
สำหรับผู้ที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์แห่งเรือนเวลาจากแบรนด์นาฬิกาอิสระระดับโลกทั้ง 18 แบรนด์ สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอมมิวนิตี้ของวอทช์เลิฟเวอร์และวอทช์คอลเลคเตอร์ได้ในงาน Bangkok Independent Watchmaking Exhibition 2019 ตั้งแต่วันที่ 4 – 8 กันยายน2562 ณ ชั้น G เกษรวิลเลจ