หนุ่มโรงงานมาบตาพุด โร่ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ โดนเพื่อนหลอกทำนิติกรรมอำพราง ยืมชื่อพาไปซื้อรถแล้วไม่ผ่อนส่ง ไฟแนนซ์ตามทวงแทบไม่เป็นสุข
(17 ก.พ.) ร.ต.อ.ไมตรี พากุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ. บาบตาพุด จ.ระยอง ได้รับแจ้งจาก นายวินัย อายุ 43 ปี ระบุว่า ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากมีบริษัทไฟแนนซ์ที่มาติดตามทวงถาม ไม่สามารถที่จะทำงานทำการได้อย่างเป็นปกติสุข
โดยล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทไฟแนนซ์ตามมาถ่ายรูปถึงที่บ้าน จึงได้ตัดสินใจมาขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามรถและเพื่อนที่นำรถยนต์เชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 924 นครศรีธรรมราช ให้ด้วย
นายวินัย ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อประมาณปีเศษ เพื่อนได้มาขอความช่วยเหลือ ต้องการจะซื้อรถยนต์มือสอง แต่ไม่สามารถกู้เงินได้ จึงได้มาขอให้เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์กับบริษัทไฟแนนซ์บริษัทหนึ่งให้แทน กระทั่งเมื่อสัญญาไฟแนนซ์ผ่าน เพื่อนก็มารับรถไปใช้ แต่ปรากฏว่าไม่ส่งเงินผ่อน ตามสัญญาที่กำหนดไว้ งวดละ 5,853 บาท รวมทั้งสิ้น 60 งวด
และในเวลาต่อมาบริษัทไฟแนนซ์ก็มาทวงถามค่างวด ตามวงเงินยอดหนี้ รวมกว่า 3 แสนบาท ที่ระบุเป็นชื่อของตนอยู่ และล่าสุดไฟแนนซ์ยังได้ตามมาถ่ายรูปที่บ้าน ตนจึงเกิดความหวาดกลัวและรำคาญใจ หลังจากที่บริษัทไฟแนนซ์ได้โทรทวงถามค่างวด ทำเอาไม่เป็นอันกินอันนอน ทำงานแทบไม่ได้อย่างเป็นปกติสุข
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกิดขึ้นผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมจะช่วยเหลือประชาชน แต่ในกรณีนี้ถือว่าเป็นความผิดตั้งแต่ต้นแล้ว ทั้งที่รู้ว่าเป็นการหลอกยืมชื่อ เพื่อที่กู้เงินไฟแนนซ์ซึ่งให้ได้รถมา ถือเป็นการทำนิติกรรมอำพรางตั้งแต่ต้น
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า กรณีในลักษณะนี้ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมีค่อนข้างมาก และเกิดกรณีเช่นนี้บ่อยมาก จึงอยากฝากให้บริษัทไฟแนนซ์ก่อนจะพิจารณาการเช่าซื้อรถยนต์ควรตรวจสอบผู้เช่าซื้อให้ดีมิฉะนั้นอาจจะเป็นปัญหาเช่นนี้ได้เรื่อยๆ
สำหรับในกรณีที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำว่าควรจะรีบออกไปติดตามรถในทันที และหากพบรถยนต์คันดังกล่าวแล้วควรแจ้งเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์มานำรถกลับไป ส่วนการติดตามทวงถามยอดค้างชำระ จะมีกฎหมายคุ้มครองเจ้าหนี้และลูกหนี้อยู่ ทำให้ในวันนี้ผู้เสียหายทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน