บนโลกของเรานั้นมีเรื่องแปลกประหลาดและเรื่องเหลือเชื่ออยู่มากมาย และเรื่องราวที่ชาวข่าวโซเชี่ยลจะนำมาเล่าในวันนี้นั้น เป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าน่าสยดสยองกันเลยทีเดียว วันนี้พวกเราข่าวโซเชี่ยลขอเสนอ 4 อันดับ ตำนานมนุษย์กินคน ขอบอกเลยว่าใน 4 อันดับมีของประเทศไทยกันด้วยนะคะ จะสยดสยองแค่ไหนไปชมกันเลยค่ะ
อันดับ 4 อิสเซ ซะงะวะ
[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3190″ adjust=”yes”]
เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มญี่ปุ่นที่เกิดในครอบครัวที่มีฐานะและได้ไปศึกษาในมหาลัยที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ในเมืองปารีส ซึ่งเป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียงด้านสาขาวิชามนุษยศาสตร์ ขณะกำลังศึกษาอยู่ อิสเซมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนชื่อ เรเน ฮาร์ตเวลต์ ซึ่งเป็นชาวดัตช์ เขาได้หลงไหลในตัวเธออย่างมากเพราะเธอเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างดี หน้าตาสวยงาม ซึ่งต่างจากอิสเซ ที่เป็นผู้ชายรูปร่างเล็ก ไม่ได้หล่อดูดี หลังจากที่สนิทกันอิสเซจึงได้ชวนเธอมารับประทานอาหารเย็นที่ห้องของเขาโดยอ้างว่าจะชวนมาพูดคุยกันเรื่องแปลบทกลอนภาษาเยอรมัน จากนั้นเมื่อเหยื่อยเผลอเขาก็ได้หยิบปืนไรเฟิลยิงเข้าที่สันคอของเธอขณะที่เธอนั่งหันหลังให้จนเธอถึงแก่ความตาย หลังจากที่โดนจับได้อิสเซ ให้คำสารภาพว่าตอนรู้ตัวว่ายิงเธอแล้วรู้สึกตกใจจนแทบจะหมดสติแต่พอได้สติก็พบว่าตัวเองกำลังอยากกินเนื้อของเธออยู่ นอกจากนี้เขายังได้สำเร็จความใคร่กับศพของผู้ตายด้วย หลังจากนั้นเขาจึงได้กัดเข้าที่สะโพกของผู้ตายแต่เป็นการลำบากต่อการกิน เขาจึงไปซื้อมีดเพื่อมาเเล่เนื้อของเธอและค่อยๆกินไปทีละส่วนแถมยังพูดพรรณาถึงรสชาติของเนื้อมนุษย์ว่า เนื้อมนุษย์เป็นดังเนื้อปลาทูนาที่“นุ่ม” และ“ไม่เหม็นคาว” จากคำสารภาพเหล่านี้จึงทำให้อิสเซติดคุกถึง 2 ปีแต่ปัจจุบันอิสเซได้พ้นโทษและกลับบ้านเกิดที่ญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อันดับ 3 อาร์มิน เมเวส
[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3191″ adjust=”yes”]
เป็นชายชาวเยอรมัน ซึ่ฃเป็นช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์วัย 42 ปี ซึ่งได้ใช้อินเทอร์เน็ตในการหาเหยื่อเพื่อกินเนื้อคน โดยเขียนข้อความในเว็บไซต์ Cannibal Cafe ชุมชนคนนิยมกินเนื้อมนุษย์แหล่งรวมคนนิยมความโหดซาดิสต์บนโลกอินเทอร์เน็ต โดยมีเนื้อหาข้อความว่า“ผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงในวัย 18-30 ปีมาเป็นเหยื่อเพื่อพลีชีพและร่างกายให้กลายเป็นอาหารอันโอชะ” จนกระทั่งมีเหยื่อได้ตอบรับข้อความของเมเวสคือ เบิร์นด์ เจอร์เก้น อาร์มันโดเบรนเดส วิศวกรชาวเยอรมัน เบรนเดสได้ยินยอมให้เมเวสชำแหละเนื้อและนำมากินเป็นอาหาร ต่อมาเมเวสได้ถูกจับกุมและถูกนำตัวพิจารณาคดี ปรากฏว่าเมเวสไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่าเพื่อนำเนื้อมากินหากแต่เหยื่อยินยอมด้วยสมัครใจเองศาลได้ตัดสินให้จำคุกเพียง 8 ปีต่อมาได้มีการพิจารณาคดีใหม่พบว่าเบรนเดสไม่ได้ยินยอมแต่อย่างใด ที่ยินยอมเพราะเมาสุราและมีความผิดปกติทางจิต ทำให้ศาลตัดสินให้เมเวสจำคุกตลอดชีวิตจากการที่เขากินเนื้อมนุษย์นั้น ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “มนุษย์กินคนแห่งโรเธนเบิร์ก”
อันดับ 2 ซีอุย
[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3192″ adjust=”yes”]
ซีอุยชายชาวจีนที่มาทำงานในไทยเขาทำงานรับจ้างอยู่หลายที่ไม่มีหลักมีแหล่งในระยะ 8 ปีแรกที่พำนักในประเทศไทยซีอุยไม่ได้ก่อคดีร้ายแรงใดๆ นอกจากคดีทะเลาะวิวาทบ้างเป็นบางครั้งแต่ เงื่อนงำที่สำคัญก็คือเส้นทางและแหล่งพักพิงของซีอุยตรงสถานที่เกิดเหตุของคดีทั้ง 7 อย่างเหลือเชื่อคือ ประจวบคีรีขันธ์ 5 คดีกรุงเทพฯ นครปฐมและระยองแห่งละ 1 คดี
ซีอุยถูกจับขณะกำลังพยายามเผาทำลายศพเด็กชาย สมบุญ บุญยกาญจน์พร้อมกับหลักฐานอวัยวะในถ้วยชามแต่แพทย์ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นของมนุษย์ หลังถูกจับได้สื่อเผยแพร่ภาพเขาหาวอ้าปากกว้างโดยนำไปสร้างความสยดสยองให้กับคนที่ดูข่าวเป็นจำนวนมากคดีดังกล่าวถูกเชื่อมโยงเข้าคดีเก่าอีก 2 คดีคือคดีฆ่าอกที่สถานีรถไฟสวนจิตรลดาที่กรุงเทพมหานครและคดีฆาตกรรมที่องค์พระปฐมเจดีย์ที่นครปฐม โดยรูปแบบและการฆาตกรรมลักษณะเดียวกันตำรวจจึงมุ่งเป้าไปที่ซีอุย ซีอุยถูกนำตัวมาสอบสวนเนื้อหาของบันทึกปากคำมี 3 เรื่องใหญ่ๆคือยอมรับคดีที่ระยอง และปฏิเสธข้อกล่าวหาคดีกรุงเทพ และคดีนครปฐม ซีอุยยอมรับคดีที่ระยองว่าเป็นการกระทำผิดครั้งแรกโดยกล่าวนัยว่า “ไม่เคยฆ่าคนเพื่อจะเอาตับและหัวใจมากินเลย” แต่สุดท้ายซีอุยก็กลับคำให้การ ยอมรับคำสารภาพทุกคดี ทำให้นักข่าวต่างพากันลงข่าวสยดสยองของซีอุยกันอย่างล้นหลาม จนปัจจุบันได้กลับมามีการโต้เถียงกันเพราะเชื่อว่าข่าวที่ต่างลงกันนั้นยังขาดการกรองที่ดี จึงทำให้ยังมีการโต้เถียงกันอยู่ว่า ตกลงซีอุยคือมนุษย์กินคนหรือเหยื่อของสังคมกันแน่!
อันดับ 1 เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์
[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3193″ adjust=”yes”]
เป็นชายชาวอเมริกา ในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งฆ่าคนไปถึง 17 ศพกันเลยทีเดียวดาห์เมอร์เป็นคนที่ฝักใฝ่ในเพศเดียวกันและมักจะหาเหยื่อจากตามย่านเกย์ หลังจากฆาตกรรมเขาได้หั่นศพเป็นชิ้นๆ ตัดอวัยวะเพศของเหยื่อแช่ไว้ในน้ำยาดองศพ และพยายามเก็บรักษากะโหลกศีรษะไว้ เขาแช่ศพของเหยื่อบางรายในอ่างอาบน้ำด้วยกรดเกลือและปล่อยทิ้งไว้ให้ย่อยสลาย จากนั้นเขาก็โกยทิ้งลงชักโครกหรือกวาดทิ้งลงท่อ ความพยายามถึงขีดสุดของเขาเป็นความคิดที่จะเก็บเหยื่อของเขาไว้กับตัวตลอดไป นั่นคือเขาเริ่มกินเนื้อเหยื่อเหล่านั้น เจฟฟรีย์เคยถูกจับกุมและต้องคดีรอลงอาญาหลายครั้งแต่ตำรวจกลับไม่เช็คประวัติบุคคลรวมทั้งไม่ได้ตรวจสอบสถานที่อย่างละเอียดเขาเลยรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ต่อมาเขาถูกจับกุมและตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตและเวลาต่อมาก็ถูกนักโทษคนอื่นฆ่าตายขณะทำความสะอาดในเรือนจำ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเรื่องราวสุดสยองเหล่านี้น่ากลัวกันบ้างรึเปล่าเอ่ย?? ถ้าชอบเรื่องราวแบบนี้ก็อย่าลืมส่งต่อคงามสยองขวัญให้เพื่อนได้ชมกันด้วยนะคะ
