พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงประเด็นการใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย ที่เอเชีย โซไซตี้ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่(26 ก.ย.62) ตามเวลาในประเทศไทยโดยในช่วงถาม–ตอบผู้ดำเนินรายการโซไซตี้ ถามความเห็น พล.อ.ประยุทธ์ เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยที่ถดถอยลง ทั้งการปรับลดการคาดการณ์จีดีพีและตัวเลขการส่งออกที่ลดลง “ท่านนายกฯคิดว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น” ผู้ดำเนินรายการถาม ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้พูดถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆและทิ้งท้ายว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่คนไทยต้องเรียนรู้จากเทคโนโลยีดิจิทัลและใช้โซเชียลมีเดีย ให้เป็นประโยชน์โดยกล่าวว่า“นักบริหารอย่างเขาใช้กูเกิลเป็นประจำ“แต่ประชาชนไม่ค่อยใช้ ทำให้ไม่ได้เรียนรู้ข้อมูลต่างๆ พวกเราเป็นนักบริหารจะเปิดกัน ส่วนใหญ่ประชาชนไม่ค่อยเปิด นั่นแหละทำให้ปัญหา มันเกิดขึ้นเพราะไม่ได้เรียนรู้ไงเพราะฉะนั้นการเรียนรู้จากโทรศัพท์จากเทคโนโลยีนี่มีประโยชน์ ส่วนใหญ่คนจะชอบอ่านแต่เรื่องที่มันขัดแย้ง เช่น ถ้าสุนัขกัดคนไม่เป็นเรื่องแต่ถ้าคนกัดสุนัขนี่มีเรื่องมันจะออกข่าวรายวันไง นี่เป็นเรื่องที่จะต้องแก้ปัญหาให้ได้” จากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งขัดแย้งกับผลสำรวจของเว็บไซต์ Alexa ที่มีผลสำรวจมาว่าเว็บไซต์ google มีการใช้งานเป็นอันดับ 1 ของเมืองไทยแถมใช้เป็นเสิร์ชเอ็นจินยอดนิยม มีเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 99.33 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาอันดับ 2 คือ YouTube อันดับ 3 คือ Google.co.th และ มีPantip.com เป็นอันดับที่ 4
[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3199″ adjust=”yes”]
เรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลามเนื่องจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์นำข้อมูลที่ผิดๆไปให้สัมภาษณ์กับทางรายการโดยขาดการศึกษาข้อมูลก่อนและอีกประเด็ดที่สำคัญคือมีการวิพากษ์วิจารณ์กันถึงวิธีที่ พล.อ.ประยุทธ์ใช้ Google ในการหาข้อมูลเพื่อบริหารประเทศ ล่าสุดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ว่า
[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3200″ adjust=”yes”]
จึงทำให้กลายเป็นประเด็นพูดถึงกันอย่างมากในอินเตอร์เน็ต