มีการได้รับรายงานข่าวออกมาจากทาง The Wall Street Journal ในการเปิดตัว Disney + ที่จะเปิดตัวในวันที่ 12 พฤษจิกายนโดยจะให้การเข้าถึงภาพยนตร์ซีรีส์ต้นฉบับ และเนื้อหาใหม่จากแฟรนไชส์ Marvel และ Star Wars
Disney ได้กล่าวกับ CNBC ว่าทางบริษัทได้เริ่มพิจารณาแผนกลยุทธ์เรื่องการลงโฆษณาผ่านเครือข่ายทีวีของบริษัทอีกครั้ง จะเห็นว่าหลายๆบริษัทเริ่มมีกลยุทธ์เข้าหาลูกค้าโดยตรงเพิ่มมากขึ้นและการโฆษณาผ่านโทรทัศน์ก็เป็นอีกช่องทางที่สำคัญในปัจจุบัน
โดยครั้งนี้ Disney กำลังพิจารณาแบนโฆษณาจากคู่แข่งสตรีมมิ่งไม่ว่าจะเป็น Netflix หรือเจ้าอื่นๆ ผ่านเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ของบริษัทไม่ว่าจะเป็น ABC จนไปถึงช่อง National Geographic ยกเว้นเพียงแค่ช่องเดียวคือ ESPN ที่เป็นช่องกีฬาเท่านั้นที่สามารถให้คู่แข่งลงโฆษณาได้
ไม่เพียงแค่ Netflix ที่จะได้รับผลกระทบเท่านั้น แต่หลังจากนี้วิดีโอสตรีมมิ่งเจ้าอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบนี้ด้วยเช่นกันอย่าง Apple+ Amazon Prime Video และ HBO MAX
โดยทาง Disney จะเปิดตัวแพลตฟอร์มที่ไม่มีโฆษณาและมีราคาเพียงแค่ 6.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (หรือ$ 69.99 สำหรับทั้งปี) เท่านั้น ซึ่งถือว่าถูกกว่า Netflix ถึงครึ่งๆเลยทีเดียว อีกทั้ง Disney ยังเสนอแพคเกจ Disney + รวมถึงช่องกีฬาอย่าง ESPN + และHulu ที่เป็นช่องแพลตฟอร์มที่ผู้ใหญ่ดูได้ ซึ่งราคาอยู่ที่ 12.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือนเท่านั้น เรียกได้ว่าราคาเท่า Netflix แต่ดูได้คุ้มกว่าถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
คราวนี้ทางด้านการแข่งขันของ Disney ที่เป็นเจ้าของคอนเทนต์ยักษ์ใหญ่ กับNetflix ที่เป็นผู้ทำแพลตฟอร์มเจ้าแรกๆนั้น จะดุเดือดแค่ไหนและอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร เราคงต้องคอยลุ้นกันอีกต่อไป