เทศกาลกินเจจะจัดในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี ระหว่างขึ้น 1 ค่ำ จนถึง 9 ค่ำ ตามปฏิทินของจีน โดยการกินเจนั้นแพร่หลายอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต จะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่กว่าที่อื่นๆ ทั้งมีการนุ่งขาวห่มขาว และมีการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ทั้งการอัญเชิญลำเต้า–ปักเต้า พิธีปีนบันไดมีด การลุยไฟ พิธีส่งเสด็จยกฮ่องและกิ้วอ๋อง มีการอัญเชิญเทพเจ้าจีนหรือพระมาเข้าทรงในร่างม้าทรง เกิดขบวนแห่พระรอบเมืองโดยร่างทรงต่างๆจะแสดงอิทธิฤทธิ์ โดยการนำมีดดาบ เหล็กแหลม ขวานหรือแม้แต่โซ่ มาทิ่มแทงตามร่างกายอย่างสยดสยอง
ถ้าถามว่า “ม้าทรง” คืออะไร? แล้วทำไม? ถึงต้องทำเช่นนั้น
คำตอบคือ ชาวภูเก็ตมีความเชื่อว่า “ม้าทรง” คือร่างทรงของเทพเจ้าจีน ซึ่งคนที่ถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของพระเจ้า จะต้องช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนหรือคนที่กำลังมีปัญหาทางด้านจิตใจ บางความเชื่อก็ว่ากันว่าม้าทรงเป็นผู้ที่ชะตาใกล้จะขาด แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องตายเทพเจ้าเลยประทับเข้าร่าง เพื่อช่วยต่ออายุขัยให้ แต่เพื่อเป็นการตอบแทนเทพเจ้า ม้าทรงจึงต้องช่วยประกอบพิธีสักการะเทพเจ้าต่างๆ รวมไปถึงในงานเทศกาลกินเจอีกด้วย
ซึ่งการทรมานร่างกายของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยการใช้เหล็กแหลมเจาะทะลุแก้ม หรือการเอามีดมากรีดอวัยวะต่างๆ ถือว่า เป็นการแสดงอิทธิฤทธิ์ของเทพเจ้าจีน ว่าได้เข้ามาประทับในร่างของม้าทรงแล้ว ซึ่งขณะที่ผู้ที่เป็นม้าทรงทรมานตัวเองอยู่นั้นผู้ที่เป็นม้าทรงจะไม่รู้สึกตัว และหลังจากจบพิธีผู้ที่เป็นม้าทรง จะใช้ผ้ายันต์หรือขี้เถ้าของธูปมาปิดบริเวณแผล แผลก็จะหายไปได้เองโดยปริยาย
ความสยดสยองของม้าทรงจะเป็นยังไงนั้น ไปชมกันเลยค่ะ
“สยองขวัญสุดๆ”
“ยังคงยิ้มได้”
“เหงื่อตกกันเลยทีเดียว”
เป็นยังไงกันบ้างคะ? สยดสยองมากเลยใช่ไหมละ? แต่ถึงยังไงเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ห้ามลอกเลียนแบบกันนะคะ ด้วยความหวังดีจากทีมงานข่าวโซลเซี่ยล
ขอบคุณภาพจาก: https://www.dailymail.co.uk/news/article-7540733/Gruesome-images-Thai-devotees-impale-cheeks.html