ข่าวโซเชี่ยล

4 เหตุผล ว่าทำไมพายุ “ฮากิบิส” ถึงอันตรายที่สุดในประวัติการณ์

ตามที่สำนักงานกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นหรือ JMA ได้ระบุว่า พายุที่มีพลังรุนแรงที่สุดในปีนี้คือ “พายุฮากิบิส” ซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่นในวันที่ 12-14 ตุลาคมนี้

ในสถิติ ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีแนวโน้มในการเกิดพายุไต้ฝุ่นมากเป็นอันดับสามของเอเชีย” ซึ่งอาจเห็นได้จากการที่เคยมีพายุไต้ฝุ่นเข้ามาใกล้ประเทศญี่ปุ่นถึง 11 ครั้งและส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรงถึง 2 ครั้ง ซึ่งถือว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีไต้ฝุ่นเข้าเกือบทุกปี อีกทั้งประเทศญี่ปุ่นเอง ได้มีการเตรียมรับมือสำหรับพายุขนาดใหญ่ แต่ไม่ใช่กับพายุฮากิบิส

ทำไมพายุฮากิบิสถึงน่ากลัวเป็นพิเศษ?

ต่อไปนี้จะเป็นเหตุผล 4 ประการว่าทำไมเราถึงต้องกลัวพายุฮากิบิส

1.ขนาด

ฮากิบิส เป็นพายุขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางของพื้นที่ที่มีลมแรงที่สุดด้วยความเร็วมากกว่า 54kph คือ 1,400 กม.  ซึ่งขนาดของมันถือว่าเกือบครึ่งความยาวของหมู่เกาะญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากขนาดของพายุที่ใหญ่ พายุก็จะเริ่มเร็วขึ้น ยาวนานขึ้น และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในวงกว้างขึ้น

2.ความแข็งแกร่ง

ในวันพฤหัสที่ผ่านมา พายุฮากิบิสมีความดันที่จุดศูนย์กลางสูงถึง 915hPa ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในพายุเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดในปี 2019 นี้

หลังจากที่พายุฮากิบิส ได้ระเบิดที่หมู่เกาะนอร์เทิร์น มาเรียนา ความดันที่จุดศูนย์กลางได้ลดลงจาก 992hPa มาเป็น 915hPa ภายใน 24 ชั่วโมง จากรายงานของเว็บไซต์ Digital Typhoon ถือว่าเป็นไต้ฝุ่นที่มีความเร็วที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

กรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ความดันจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 950 hPa เมื่อมันเข้าใกล้ประเทศญี่ปุ่นในวันเสาร์นี้ ถ้าพายุฮากิบิสขึ้นฝั่งไปจนถึงโตเกียวด้วยความดันขนาดนี้ มันก็จะกลายเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่ขึ้นฝั่งตั้งแต่ที่เคยมีการบันทึกมา

3.ช่วงเวลา

สิ่งที่ทำให้พายุฮากิบิสมีความน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกอย่างก็คือ ช่วงเวลาที่มันขึ้นฝั่ง เป็นช่วงเวลาที่พระจันทร์เต็มดวง ซึ่งหมายความว่าระดับน้ำทะเลจะสูงกว่าปกติ ด้วยความสูงของระดับน้ำและคลื่นลูกยักษ์เมื่อพายุมาถึง จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมชายฝั่งสูง

4.สถานที่

พายุฮากิบิสอาจะเป็นพายุลูกที่ 2 ที่พัดผ่านโตเกียวในรอบเดือนนี้ ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฟ้าใสขึ้นในโตเกียว ได้ถือว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดผ่านโตเกียวมันมีความเร็วถึง 207kph และก่อให้เกิดลมกระโชกแรงในจังหวัดชิบะ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายและอีกหลายร้อยกว่าราย จากพันกว่าครัวเรือนยังคงได้รับผลกระทบจากพายุฟ้าใส บ้านเรือนหลายหลังในย่านนั้นยังคงใช้แผ่นพลาสติกแทนหลังคา และในบางหลังก็ยังคงติดอยู่ในบ้าน ซึ่งยังไม่ทันผ่านพ้นไปเท่าไหรพายุฮากิบิสกผ้ถือกำเนิดขึ้น และยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในพายุในประเทศญี่ปุ่นที่เลวร้ายที่สุดกว่าทุกๆครั้งที่เคยมีมา ใครก็ตามที่อยู่ในบริเวณที่มีความเสี่ยง โปรดติดตามข้อมูลข่าวสารเพื่อเตรียมพร้อมมือกับพายุที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย