หลังจากกรณีตำรวจเดินทางเข้าจับกุม นาย ธนณัฎฐ์ สิริปิยพร หรือเสี่ยท็อป วัย 49 ปี ที่สนามบินดอนเมือง หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ จับกุมในข้อหาทำความผิดฐานพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ความผิดจากการพูดจาหว่านล้อมเพื่อซื้อคลินิกไปใช้หลอกลวงแอบอ้างในทางที่เสียหาย และเรื่องหลอกลวงสาวพริตตี้เพื่อเเต่งงาน
นอกเหนือจากนี้เสี่ยท็อปให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนในเรื่องการหลอกลวงพริตตี้แต่งงาน เสี่ยท็อปยืนยันว่าไม่มีการหลอกลวง ตนมีเอกสารบัญชีรายละเอียดของค่าใช้จ่ายว่าตนเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด ส่วนตัวผู้หญิงนั้นไม่ต้องรับผิดชอบสิ่งใด เสี่ยท็อปกล่าวว่าข้อเท็จจริงคือตัวเสี่ยท็อปถูกหลอกแต่งงาน ไม่ใช่ตัวผู้หญิงที่ถูกหลอกแต่งงาน
หลังจากจับกุมศาลได้แจ้งผลพิพากษาให้ นายธนณัฎฐ์ สิริปิยพร หรือเสี่ยท็อป จำคุก 1 ปี จำเลยได้ให้การเป็นประโยชน์ ศาลจึงลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกเพียง 6 เดือน จึงต้องส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำที่ลาดยาว
ล่าสุด นาง พัชรธัญวิสิฐ ทองเมือง อายุ 64 ปี หรือ น้าน้อย ผู้ที่เลี้ยง เสี่ยท็อป หรือ นายธนณัฏฐ์ มาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เดินทางมาหาเสี่ยท็อป พร้อมเปิดเผยว่า ทางมารดาของนายธนณัฏฐ์ ให้มาดูว่านายธนณัฏฐ์ ต้องการจะกินอะไร หรือ ต้องอะไรบ้าง พร้อมให้บอกว่า ให้ใจเย็นๆ ให้ตั้งสติ
แม่ของเสี่ยท็อปได้ติดต่อมาทางน้าน้อย และได้สอบถามพูดคุยกับนายธนณัฏฐ์ ซึ่งนายธนณัฏฐ์บอกว่ายังไม่หิว หากหิวหรืออยากกินอะไรก็จะให้น้าน้อยไปซื้อ ส่วนทางแม่ของนายธนณัฏฐ์ก็เครียด เพราะเป็นห่วงลูก เช่นกัน ทั้งนี้ยังไม่ได้รับการประสานเรื่องการประกันตัวจากทางญาติแต่อย่างใด
และเนื่องจากรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เสี่ยท็อปมีอาการเครียด ขณะอยู่ภายในห้องควบคุม และมีน้ำตาลขึ้นสูง ถึง 380 แม่ของเสี่ยท็อปจึงบอกให้น้าน้อยมาหาพร้อมนำยาเบาหวานมาให้ 1 เม็ด