ข่าวโซเชี่ยล

ธนาธร – ปิยบุตร พบอัยการ ! ยัน เรื่องสมาชิกลาออก ไม่มีผลกระทบ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

อัยการแจ้ง สตช.ยังไม่ส่งความเห็นแย้งคดีวิจารณ์พลังดูด คสช. รออีก 2 ธ.ค.นี้ ส่วนสำนวนปิยบุตร วิจารณ์ศาล รธน.นัดสั่งคดีรอบแรก 28 พ.ย.นี้ ธนาธรย้ำเรื่องสมาชิกลาออก ไม่มีผลกระทบ ให้เวลาพิสูจน์อุดมการณ์ของพรรค

เวลา 09.00 น. วันที่ 28 ต.ค.62 – ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคฯ พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบอัยการสำนักงานคดีอาญา 6 เพื่อขอรับทราบความเห็นของ ผบ.ตร. ว่าเห็นแย้งในคำสั่งคดีของพนักงานอัยการ ที่สั่งไม่ฟ้องนายธนาธร , กรรมการบริหารพรรค , นายทะเบียนพรรค รวม 3 คน ที่พนักงานสอบสวน ปอท.กล่าวหาว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ หรือไม่ จากการร่วมกันจัดรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ในเพจอนาคตใหม่ – The Future We Want และ เพจ Thanathorn Juangroongruangkit วิจารณ์กระแสข่าวกรณีพลังดูดของ คสช.

โดยนายธนาธร หัวหน้าพรรค ได้ให้สัมภาษณ์กรณีสมาชิกพรรค และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ส่วนหนึ่งจะยื่นลาออก มีผลอะไรกับพรรคหรือไม่ว่า “เป็นสิทธิของสมาชิกทุกท่าน เรามองว่าไม่มีผลกระทบอะไรกับพรรค โดยพรรคมีสมาชิก 60,000 คน ยืนยันที่จะเดินก้าวต่อไปข้างหน้าโดยให้ความสำคัญกับสมาชิก ให้สมาชิกมีบทบาท มีสิทธิ มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย เราไม่มีอะไรกังวลใจ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์พวกเราว่า เราจะสร้างพรรคที่ยึดโยงกับประชาชน ยึดโยงกับสมาชิกได้จริงหรือไม่

“อย่างที่ผมยืนยันมาตลอดว่า การสร้างพรรคเพียงแค่ 1 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา มันไม่มีอะไรทำได้สมบูรณ์แบบ มันไม่มีทางที่จะสร้างพรรคที่เข้มแข็ง ที่เติบโตเร็วขนาดนี้อย่างสมบูรณ์แบบได้ในเวลา 1 ปีครึ่ง ดังนั้นประสบการณ์ต่างๆ ความผิดพลาดต่างๆ เราก็รับเข้ามาเรียนรู้ ปรับปรุง เพื่อที่จะสร้างพรรคให้เข้มแข็งมากขึ้น

“ดังนั้นกรณีที่มีอดีตผู้สมัคร ส.ส. รวมถึงสมาชิกท่านอื่นที่ไปลาออกจากสมาชิกพรรคในวันนี้ ก็ถือว่าเป็นกระบวนการตามปกติ ไม่ได้ทำให้พวกเราหวั่นไหวสั่นคลอน ก็ขอเดินหน้าต่อ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์พวกเราว่า จะสร้างพรรคที่เข้มแข็งได้หรือไม่”

เมื่อถามว่า ดูเหมือนมีสมาชิกจำนวนมากที่ไม่พอใจการบริหารของคณะกรรมการบริหารพรรค นายธนาธร กล่าวว่า “สมาชิกกี่คน 50 คน ต้องเรียนอย่างนี้ พอเราเข้ามาทำการเมือง แน่นอนที่สุดตอนเลือกผู้สมัคร ส.ส.เข้ามา เรามีเวลาสั้นมากกว่าที่เราจะได้รับรองเป็นพรรค เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว เลือกตั้ง มี.ค. เราใช้เวลาแค่ 2 เดือน ในการคัดสรรผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในการเลือกตั้งที่ผ่านมา

“กระบวนการที่สั้น ทำให้เราไม่สามารถที่จะคัดกรองคนที่มีอุดมการณ์ คนที่มีหลักการ คนที่เชื่ออย่างพรรคได้ 100 % มันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเมื่อเวลาเดินเข้ามา สถานการณ์และเวลาก็พิสูจน์คนว่า ใครยืนหยัดร่วมกับพรรค ว่าใครมีอุดมการณ์ตรงกับพรรค ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ผมคิดว่าทุกพรรคการเมืองก็เป็นอย่างนี้

“เมื่อกาลเวลาเดินผ่านไปก็มีคนเดินเข้าและมีคนเดินออกตามปกติของการเดินทาง สิ่งที่ผมยังยินดี สิ่งที่ผมยังดีใจก็คือ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ขอเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ มีคนเป็นจำนวนมากอยากเข้ามาร่วมทำงานกับเรา ไม่ว่าจะเป็นงานนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นงานสร้างพรรค ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่อุปสรรค เราไม่มองว่าเป็นปัญหาสำหรับการก้าวต่อไปของเรา”

เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกระทบกับภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า “คงเป็นธรรมดา โดยเฉพาะในจังหวะที่พรรคอนาคตใหม่กำลังถูกผู้มีอำนาจตั้งใจจะทำร้าย ตั้งใจจะลดความน่าเชื่อถือของแกนนำพรรค ต้องการจะดิสเครดิตเรา เมื่อเกิดอะไรที่เป็นเรื่องเล็กน้อย ถามจริงถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอื่นๆ จะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ไหม ท่านลองคิดลองตัดสินเรื่องนี้ด้วยใจเป็นธรรม พรรคอื่นมีเหตุการณ์อย่างนี้หรือไม่ ทุกท่านน่าจะรู้คำตอบอยู่ว่าพรรคไหนมีเหตุการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคอย่างไรบ้าง พอพรรคอนาคตใหม่มีปัญหาภายใน ก็ถูกนำมาโจมตี ทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ขอให้มองสถานการณ์การเมืองอย่างเป็นธรรม”

นายธนาธร กล่าวต่อไปว่า “สำหรับแกนนำพรรค พวกเรายืนหยัดมั่นคงกับทิศทางของเรา ส่วนปัญหาต่างๆ ที่ถูกนำไปขยายผลเพื่อโจมตีดิสเครดิตพรรคและแกนนำพรรค ขอวิงวอนให้ประชาชนมองเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ด้วยความเป็นธรรม ตนยกตัวอย่างกรณีข้อกฎหมายที่เราโดน 20 กว่ากรณี ทั้งที่อยู่ในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในศาลรัฐธรรมนูญ ในชั้นตำรวจ อัยการ

“คดีต่างๆ เหล่านี้ทำให้พวกเราเสียเวลามากมาย แทนที่ตนจะได้เอาเวลาเช้าวันนี้เตรียมตัวประชุมกรรมาธิการงบประมาณช่วงบ่าย ก็ต้องเดินทางมาที่นี่ คำถามที่ผมอยากจะถามกับสังคมอย่างตรงไปตรงมา อยากให้ทุกท่านช่วยคิดพิจารณา การตั้งพรรคการเมือง ทำงานการเมือง เพื่อการเปลี่ยนแปลงในระบบในรัฐสภา เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียม เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เพื่อเรียกร้องสิทธิมนุษยชนในประเทศนี้ มันเป็นผิดบาปมากหรืออย่างไร มันเป็นผิดบาปมากขนาดนี้หรือเปล่า ก็ขอให้ทุกท่าน ฝากให้ทุกท่านช่วยคิดพิจารณาคำถามเมื่อสักครู่อย่างจริงจัง”

ทั้งนี้ในส่วนเรื่องคดี นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ได้เปิดเผยภายหลังจากเข้าพบพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาว่า ในวันนี้ สตช. ยังไม่ส่งความเห็นกลับมาที่อัยการว่า จะมีความเห็นแย้งหรือเห็นด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งหากตำรวจมีความเห็นแย้ง ก็จะต้องส่งอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาชี้ขาดตามขั้นตอน แต่ถ้าตำรวจเห็นด้วยกับความเห็นสั่งไม่ฟ้องของอัยการ คดีของนายธนาธรกับกรรมการบริหารพรรคจะสิ้นสุดตามที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง

โดยวันนี้พนักงานอัยการได้แจ้งว่า ให้มาฟังคำสั่งของ สตช.อีกครั้งในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนายธนาธรแล้ว นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค อนค. ก็ยังเดินทางมาที่สำนักงานอัยการคดีอาญาด้วย

จากกรณีที่วันนี้พนักงานสอบสวน ปอท. นัดส่งสำนวนการสอบสวนคดีวิจารณ์ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรฟ้องนายปิยบุตร ขณะที่นายปิยบุตร ตอบผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้ากรณีการสอบวินัย ส.ส. โหวตสวนมติพรรค และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ จะเข้ามาชี้แจงหรือไม่

นายปิยบุตร กล่าวว่า “จะเริ่มกระบวนการพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) เรียกมาชี้แจงทยอยกันมา อีกด้านหนึ่งมีคำร้องเข้ามาจากสมาชิกพรรคท่านอื่น และคณะทำงานจังหวัด ก็จะสอบสวนกันตามกระบวนการ ตามข้อบังคับ ถ้าชี้แจงอะไรเสร็จเรียบร้อย เรื่องก็ยังไม่จบในชั้นคณะกรรมการพิจารณาอย่างเดียว จะส่งคณะกรรมการบริหารพรรคทำคำวินิจฉัยต่อไป เป็นกระบวนการภายในพรรค ส่วน น.ส.กวินนาถ ยังไม่ได้ติดต่อไป น่าจะเร็วๆ นี้”

เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ไม่พอใจที่มีการกล่าวหาว่าเป็นงูเห่า นายปิยบุตร กล่าวว่า “ยืนยันว่าไม่มีใครในพรรคไปกล่าวหาว่า น.ส.ศรีนวล เป็นงูเห่า เราก็มั่นใจว่า น.ส.ศรีนวลไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น และยังเป็นบุคลากรที่สำคัญของพรรค”

โดยในส่วนของคดีที่ ปอท.ส่งสำนวนนั้น นายกฤษฎางค์ ทนายความ กล่าวว่า “วันนี้พนักงานสอบสวน ปอท. ได้นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายปิยบุตร ในความผิดฐานดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญเพียงข้อหาเดียว มาให้อัยการสำนักงานคดีอาญา โดยไม่มีส่วนความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ได้กำหนดนัดให้นายปิยบุตร มาฟังคำสั่งในวันที่ 28 พ.ย. นี้ เวลา 10.00 น.

โดยหลังจากนี้ 1-2 วัน เราจะมายื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาด้วย เพื่อขอให้มีคำสั่งสอบพยานเพิ่ม จากที่เราเคยร้องขอในชั้น ปอท. แต่ไม่สอบให้ กลับสอบพยานที่มีแนวคิดตรงกันข้ามกับพรรคอนาคตใหม่ โดยจากที่ดูข้อหา เราเห็นว่าไม่ใช่ประเด็นที่จะผิดกฎหมาย แต่อาจเป็นเพียงความต้องการเอานายปิยบุตรขึ้นศาล ทั้งนี้เรามั่นใจว่าถ้าเป็นนักกฎหมายได้มาอ่านสำนวนจะรู้ว่า เป็นเรื่องที่เบาหวิว ถ้าเป็นคดีของคนอื่นคงไม่รับ ส่วนจะสอบพยานเพิ่มเติม ก็จะเป็นพยานที่เกี่ยวพันในเหตุการณ์”