สาวม.2โพสต์เฟซลาเพื่อน “ไปแล้วนะ” ดิ่งตึก12ชั้นดับ

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.หัวหมาก นำกำลังฝ่ายสืบสวนในสังกัด พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์ สถาบันิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมกันตรวจสอบเหตุคนกระโดดตึกลงมาเสียชีวิต บริเวณอาคารสูงแห่งหนึ่งในพื้นที่ย่านซอยรามคำแหง แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ โดยจุดเกิดเหตุพบศพ น้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2  โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านมักกะสัน สภาพศพนอนคว่ำหน้ากระดูกหักหลายแห่ง จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายพักอาศัยอยู่ที่ชั้น 6 ของอาคารดังกล่าว จึงขึ้นไปตรวจสอบต่อยังห้องพัก พบ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี แม่ของผู้ตายกำลังอยู่ในอาการช็อก โดยก่อนเกิดเหตุแม่และลูกสาวต่างมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จนสุดท้ายผู้ตายวิ่งหนีแม่ออกไปนอกห้องขณะที่แม่วิ่งตามไปจากนั้นไม่นานผู้ตายก็กระโดดลงมา โดยที่แม่พยายามเข้าช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันการณ์

ด้านเพื่อนรุ่นพี่ของผู้ตาย หลังทราบข่าวได้เดินทางมาดูศพ ถึงกับร้องไห้รับไม่ได้ในเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะเล่าให้ฟังว่า พบเห็นผู้ตายโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อชีวิต ไม่อยู่คงดี และยังมีรูปก่อนกระโดดจากที่สูง พร้อมใบหน้าชูสองนิ้ว ระบุข้อความ “กูไปแล้วนะ” โดยตนพยายามสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นปรากฏว่า ผู้ตายแชทข้อความมาบอกว่า “กูไปละนะ กูรักมึง” ก่อนจะเงียบหายไป ทั้งนี้ตนสนิทกับผู้ตายมา 3-4 ปีแล้ว แต่ผู้ตายมักบอกว่ามีปัญหาทะเลาะกับครอบครัวตลอด ล่าสุดมาบอกข่าวว่าตั้งครรภ์ได้ประมาณ 1 เดือน ทั้งที่เป็นคนชอบไปปาร์ตี้และเสพยาเสพติด โดยเมื่อประมาณ 3-4 เดือนไปเที่ยวผับในซอยมหาดไทย กลับถูกคนวางยาเสียสาว จนต้องหามส่งโรงพยาบาลมาแล้ว

ขณะที่ นายเต้ย (ขอสงวนชื่อสกุลจริง) แฟนหนุ่มของผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาตนฝันร้ายว่าแฟนสาวหายตัวไปพยาหาแต่ก็ไม่พบ ภายหลังสะดุ้งตื่นเพราะมีเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่าแฟนตนเสียชีวิตแล้ว จึงรีบมาดูที่เกิดเหตุ ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังรับไม่ได้ที่ฝันร้ายกลายเป็นจริง รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งเพราะเมื่อ 3-4 วันก่อน ผู้ตายเพิ่งมาบอกว่าตั้งครรภ์ด้วยกัน โดยระยะหลังมานี้ผู้ตายมักบ่นว่าเครียด หลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวก่อนจะมาเกิดเหตุสลดขึ้น

ด้าน พ.ต.อ. เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่า หลังจากนี้จะเชิญแม่ผู้ตายมาทำการสอบปากคำ แต่เนื่องจากขณะนี้ไม่สามารถให้การได้เพราะยังอยู่ในอาการช็อก หลังจากนี้จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตลอดจนสอบปากคำพยานแวดล้อมให้แน่ชัดก่อน สำหรับประเด็นอื่น ๆ ทั้งเรื่องสารเสพติด หรือมีการตั้งครรภ์หรือไม่ ต้องขอเวลาตรวจสอบก่อน.