ข่าวโซเชี่ยล

ส.ภัตตาคารไทยทำแคมเปญ “ทุบราคา-กุ้งปากบ่อถึงครัวบ้าน”

  1.   สมาคมภัตตาคารไทย ผนึก Travel Radio 104.5 MHz  สานต่อบทบาท ซีเอสอาร์ เรดิโอ  อาสาโดดอุ้มกุ้ง 12 ตัน หรือ 12,000 กิโล ช่วยเกษตรกรไทย ทำแคมเปญ “ทุบราคา-กุ้งปากบ่อถึงครัวบ้าน”  สนับสนุน นโยบายส่งเสริมการบริโภคกุ้งก้ามกราม ให้คนไทยมีโอกาสกินกุ้งคัดเกรดคุณภาพส่งออก ในราคาถูกพิเศษ  ขานรับมาตรการกรมการค้าภายในเปิดรับออเดอร์แล้ว  เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งยิ้มแป้น  ส. ภัตตาคารไทย – Travel Radio  เปิดเพจ – อิ่มสุข Delivery  และสายตรงเดลิเวอรรี่ 094-479-8118  พร้อม วางจุดเผาและจัดส่งกุ้งครอบคลุม  4 ทิศของ กทม  ให้ได้กินกุ้งเผาสดๆ ที่รวดเร็วทันใจ 
  2.            จากผลการประชุมเชื่อมโยงเจรจาสนับสนุนเกษตรกรเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม  ระหว่างกรมการค้าภาย ใน   กับ สมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย โดย นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายกสมาคม  เพื่อขอภาครัฐสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อบริหารจัดการด้านต้นทุนให้ต่ำลง เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาด   ซึ่งปัจจุบัน  การเพาะเลี้ยงฟาร์มกุ้งมีความได้เปรียบในเชิงพื้นที่ที่มีศักยภาพ พร้อมเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีการนำมาใช้อยู่แล้ว
  3.               นางฐนิวรรณ นายกสมาคมภัตตาคารไทย และ ผู้บริหารคลื่นสถานี Travel Radio FM 104.5 MHz ภายใต้บริษัท TNN Media 77  เปิดเผยว่า  “ภาครัฐบาลโดยกรมการค้าภายใน ให้มาตรการช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งก้าม กรามโดยเชื่อมโยงภาคธุรกิจการค้าเพื่อช่วยกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภค   โอกาสนี้ สมาคมภัตตาคารไทย  และ Travel Radio  ขันอาสารับกระจายกุ้งก้ามกราม ถึง 12 ตัน หรือ 12,000 กิโล ตรงสู่ผู้บริโภค ผ่านจุดแข็งของเครือข่ายร้านอาหาร ภายใต้สมาคมภัตตาคารไทย และ ความเป็นสื่อวิทยุยุคใหม่ ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม O2O (Offline to Online)  ทีได้กลายเป็น CSR Radio  ชุมชนของคนที่มีแนวคิด Caring & Sharing  โดยทำแคมเปญพิเศษ  “ทุบราคา-กุ้งปากบ่อถึงครัวบ้าน”   เพื่อประโยชน์ของสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ  กลุ่มเกษตรกรและผู้บริโภคร่วมกัน  
                  นางฐนิวรรณเผยเพิ่มเติมว่า  “แคมเปญพิเศษ  “ทุบราคา-กุ้งปากบ่อถึงครัวบ้าน” นี้  จะเป็นการกระจายกุ้งก้ามกราม จากเกษตรกรตรงสู่ผู้บริโภค  ตัดช่องทางพ่อค้าคนกลาง  ผู้บริโภคจะได้กินกุ้งก้ามกรามในราคาถูกกว่าท้องตลาด และในคุณภาพที่เหนือกว่า  เป็นกุ้งก้ามกรามคุณภาพส่งออกขายยังต่างประเทศ  เพื่อช่วยเกษตรกรที่ประสบปัญหาการส่งออกกุ้งก้ามกรามในปัจจุบัน  
    กุ้งก้ามกรามที่นำมาจำหน่าย ผ่าน “แคมเปญพิเศษ  “ทุบราคา-กุ้งปากบ่อถึงครัวบ้าน” นี้ เป็นกุ้งเกรดพรีเมี่ยม  ที่มีการคัดทั้งด้านคุณภาพและขนาดทุกตัว  ยิ่งกว่านี้ ความสดที่เน้นแม้เปลือกกุ้งที่ยังต้องคงสภาพความแข็ง   เมื่อนำมาเผาแล้วจะสด  หวานและอร่อยมาก เนื้อไม่ยุ่ย   กุ้งก้ามกรามล็อตพิเศษนี้   ได้มีการพัฒนาการเลี้ยงแบบอิสราเอล  คือ เลี้ยงเฉพาะกุ้งเพศผู้  โดยคัดแยกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ  
  4. และทำการคัดเลือกเฉพาะพันธุ์พ่อแม่ที่ตัวโตก้ามเล็กเพราะคนไทยไม่ชอบกินก้าม  โดยได้รับใบรับรองการเลี้ยงในระบบใหม่ปลอดสารพิษ. ไม่มีสารตกค้าง ปลอดเชื้อ  
    การกระจายกุ้งก้ามกราม ตาม “แคมเปญพิเศษ  “ทุบราคา-กุ้งปากบ่อถึงครัวบ้าน” ของ สมาคมภัตตาคารไทย และ Travel Radio นี้   จะมีจำนวนเพียง 12 ตัน หรือ 12,000 กิโล  เป็นกุ้งเกรดพรีเมี่ยมคัดทุกตัว  มี  2  ขนาด  ขนาด  8 – 10 ตัว /กิโล  และ  ขนาด  11 – 13 ตัว / กิโล   โดยจำหน่ายในลักษณะ  กุ้งก้ามกรามเผาสดๆ พร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเข้มข้น จัดจ้าน  บรรจุในกล่องภาชนะพิเศษ   รับออเดอร์ผ่านช่องทางออนไลน์  โดยทำการเปิดเพจ อิ่มสุข Delivery  และเปิดสายตรง-เดลิเวอรี่ 093–479-8118  และรับออเดอร์ตั้งแต่ 20 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป   ยิ่งกว่านี้  ยังได้จัดวางจุดกระจายสินค้าที่ใช้เป็นจุดทำการเผากุ้งและจัดส่งที่ครอบคลุม  4 ทิศของกรุงเทพและปริมณฑล   เพื่อให้กุ้งไปถึงมือและครัวของผู้บริโภคแบบเผาสดๆ อย่างรวดเร็ว  ที่สำคัญที่สุด  คอกุ้งทั้งหลายจะได้กินกุ้งคุณภาพส่งออกในราคาถูกกว่าท้อง ตลาด และยังได้กินกุ้งที่มีคุณภาพสุงกว่า จากปากบ่อถึงครัวบ้าน   นางฐนิวรรณกล่าวปิดท้าย
                     อย่างไรก็ตามสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย  ขอผู้บริโภคร่วมใจสนับสนุนเกษตรกรผุ้เพาะเลี้ยง  สั่งด่วน บ้านละ  1- 2 กิโล ให้การกระจายกุ้งก้ามกราม  12 ตัน บรรลุเป้าหมาย
    ส่วนทางด้านนายประกอบ  ทรัพย์ยอดแก้ว นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย  กล่าวเสริมว่า  “นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่สังคมไทยมีความเอื้ออาทรต่อกัน  การรับเป็นช่องทางกระจายกุ้งให้กับกลุ่มเกษตรกรของ สมาคมภัตตาคารไทย และ Travel Radio ในครั้งนี้   จะทำให้เกิดสีสันในสังคมและเป็นจุดกระตุ้นและตอกย้ำจิตสำนึก  Caring & Sharing  ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสังคมทุกภาคส่วน  กลุ่มเกษตรกรทั้งหลายจะมีกำลังใจในการพัฒนาทั้งวิธีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและอื่นๆ ให้สินค้ามีคุณภาพ และ ปลอดภัย ถึงปากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและคนทั่วโลก และขอให้ผู้บริโภคร่วมใจสั่งกุ้งก้ามกรามเผา บ้านละ 1-2 กิโล ให้ 12 ตัน บรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เพื่อความหวังของเกษตรกรไทยผู้เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ในครั้งนี้
  5. กุ้งก้ามกรามนี้  สามารถนำมาปรุงได้หลากหลายเมนู เช่น ต้มยำ กุ้งเผา หรือแม้แต่ทอด เพราะมีเนื้อแน่น รสชาติอร่อย จากความต้องการที่มีมาก แต่ปริมาณกุ้งชนิดนี้กลับมีน้อยลงในธรรมชาติ ทำให้กุ้งมีราคาแพง จึงทำให้ปัจจุบันนี้มีการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามกันอย่างแพร่หลายในหลายจังหวัด เช่น นครปฐม ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี ฯลฯ