มิจฉาชีพปลอมเฟซนุ๊ก-สุทธิดา ตระเวนเรี่ยไรเหยื่ออ้างทำบุญ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา หรือ นุ๊ก-สุทธิดา อดีตดารานักร้องชื่อดัง พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอม ชื่อ “Nook Sutida” หลอกลวงผู้เสียหาย อ้างว่าจะนำเงินดังกล่าวไปทำบุญ โดยมี น.ส.มาดี ภัทรนนทนนท์ 1 ในผู้เสียหายเดินทางมาร่วมชี้แจง
นายษิทรากล่าวว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กปลอมได้ส่งเมสเซนเจอร์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กหลอกขอรับบริจาค ผู้เสียหายหลายราย มีเพื่อนดาราศิลปินของ นุ๊ก-สุทธิดาหลายคนเกือบตกเป็นเหยื่อบัญชีเฟซบุ๊กปลอมดังกล่าว เชื่อว่าทำมานาน ได้นำหลักฐานเป็นข้อความสนทนา และเลขบัญชีธนาคารที่โอนเงินไปให้มามอบให้ ปอท. ช่วยตรวจสอบหาผู้กระทำผิด ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆที่ถูกเฟซบุ๊กปลอมทักข้อความไปขอช่วยทำบุญให้ติดต่อตนเพื่อนำหลักฐานแจ้งความตำรวจ ปอท.เพิ่มเติม
ขณะที่นุ๊ก-สุทธิดากล่าวว่า เฟซบุ๊กปลอมดังกล่าวนำรูปตนไปใช้แอบอ้างหลอกคนอื่นๆ เพราะเป็นคนชอบทำบุญ กระทั่งมีผู้เสียหายติดต่อมาถามว่า มีการให้ช่วยโอนเงินเพื่อช่วยทำบุญหรือไม่ แต่ตนไม่ทราบรายละเอียด ถ้ามีการช่วยทำบุญจริง ปกติจะโพสต์เลขบัญชีธนาคารโดยตรงที่จะให้ช่วยเหลือ ไม่ต้องผ่านบัญชีตัวเองแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนมีเฟซบุ๊ก 2 บัญชีแต่ไม่ค่อยได้เล่น และหากมีการอัปรูปจะมีผู้ช่วยคอยจัดการให้ พร้อมฝากผู้ปลอมเฟซบุ๊กไม่อยากให้ไปหลอกลวงบุคคลอื่นๆอ้างทำบุญเพราะเป็นบาป
ส่วน น.ส.มาดี 1 ในผู้เสียหายเผยว่า เฟซบุ๊กปลอมของอดีตนักร้องสาวได้ทักมายังเมสเซนเจอร์เฟซบุ๊กตนให้ร่วมทำบุญไถ่ชีวิตวัวในราคาตัวละ 25,000 บาท สงสัยว่าการทำบุญตามศรัทธาทำไมถึงระบุจำนวนเงิน อย่างไรก็ตาม ได้โอนไปเพียง 20 บาท เพื่อเป็นหลักฐาน และทักเฟซบุ๊กกลับไปว่าอยากให้นุ๊ก-สุทธิดามาเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าให้ แต่ผู้ใช้บัญชีปลอมดังกล่าวอ้างไม่สะดวก เพราะติดถ่ายโฆษณาสินค้าให้อีกแบรนด์หนึ่ง และเมื่อพยายามขอเบอร์ติดต่อกลับถูกบ่ายเบี่ยง เชื่อว่าเป็นบัญชีเฟซบุ๊กที่ถูกปลอมขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าวว่า คดีนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 1.ตำรวจจะสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อเอาผิดบัญชีเฟซบุ๊กปลอมในข้อหา พ.ร.บ.คอมฯและฉ้อโกงประชาชน 2.ส่วนนุ๊ก-สุทธิดา จะสอบปากคำในฐานะพยาน พร้อมฝากถึงบุคคลที่คิดจะกระทำการในลักษณะนี้ให้หยุด เนื่องจากเป็นความผิดตามกฎหมาย และมีอัตราโทษสูง